15 จำนวนผู้เข้าชม |
ภาวะผิวขาดสมดุล Skin Barrier Dysfunction คืออะไร?
ผิวหนังของเราทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการปกป้องร่างกายจากสิ่งกระตุ้นภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค สารเคมี มลภาวะ หรือแม้แต่การสูญเสียน้ำออกจากร่างกายเอง ชั้นผิวหนังที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันสำคัญนี้เรียกว่า "Skin Barrier" หรือ "เกราะป้องกันผิว" ซึ่งหากเกราะผิวนี้เสียสมดุล จะส่งผลต่อสุขภาพผิวอย่างมีนัยสำคัญ
ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักภาวะ "Skin Barrier Dysfunction" หรือภาวะผิวขาดสมดุลอย่างลึกซึ้ง พร้อมอธิบายกลไกที่เกี่ยวข้อง สัญญาณที่ควรสังเกต และแนวทางการฟื้นฟูที่อ่อนโยนและปลอดภัย
ทำความเข้าใจ “Skin Barrier” คืออะไร?
Skin Barrier คือชั้นบนสุดของผิวหนัง (Stratum Corneum) ที่ประกอบด้วยเซลล์ผิวที่ตายแล้วเรียงตัวเหมือนอิฐ (corneocytes) และไขมันระหว่างเซลล์ที่ทำหน้าที่เหมือนปูน (lipids) เพื่อเชื่อมเซลล์เข้าด้วยกัน
หน้าที่หลักของ Skin Barrier
ป้องกันการสูญเสียน้ำ (Transepidermal Water Loss)
ป้องกันการเข้าสู่ร่างกายของสารก่อการระคายเคืองและเชื้อโรค
รักษาสภาพแวดล้อมของจุลินทรีย์ที่ดีต่อผิว (skin microbiome)
สาเหตุที่ทำให้เกราะผิวเสียสมดุล
เมื่อ Skin Barrier เสื่อมประสิทธิภาพลง จะนำไปสู่ภาวะ "ผิวขาดสมดุล" หรือ Skin Barrier Dysfunction ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงเกินไป เช่น โฟมล้างหน้าที่มีค่า pH สูง หรือสครับที่หยาบเกิน
มลภาวะและแสงแดด ที่เร่งให้เกิดการอักเสบและทำลายไขมันผิวตามธรรมชาติ
การล้างหน้าบ่อยหรือการล้างหน้าด้วยน้ำร้อน ทำให้ผิวสูญเสียน้ำและไขมันจำเป็น
การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว เช่น กรดไขมัน วิตามิน B3 หรือ Zinc
ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลต่อกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ
สัญญาณของผิวขาดสมดุล
ผิวแห้ง ตึง หรือมีอาการลอกเป็นขุย
ผิวไวต่อสิ่งกระตุ้น แพ้ง่าย หรือระคายเคืองบ่อย
เกิดสิวผด สิวอักเสบ หรือผื่นแดงง่าย
ผิวไม่เรียบเนียน รู้สึกไม่สบายผิวหรือคัน
เครื่องสำอางที่เคยใช้แล้วดี กลับรู้สึกแสบหรือระคายเคือง
หากคุณมีอาการเหล่านี้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล หรือหลังจากเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดูแลผิว อาจเป็นสัญญาณว่าผิวของคุณกำลังอยู่ในภาวะ Skin Barrier Dysfunction
แนวทางการฟื้นฟูผิวอย่างอ่อนโยนและปลอดภัย
การฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวไม่ควรเร่งรัด แต่ต้องอาศัยความเข้าใจและความอ่อนโยนในการดูแล ดังนี้
ลดสิ่งที่กระตุ้นการระคายเคือง
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารลดแรงตึงผิวรุนแรง
เสริมไขมันธรรมชาติให้ผิว
เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ กรดไขมัน และคอเลสเตอรอล เพื่อเสริมโครงสร้างผิวให้สมบูรณ์
เติมน้ำให้ผิวอย่างต่อเนื่อง
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไฮยาลูโรนิก หรือสารกลุ่ม humectants ที่ช่วยดูดซับน้ำเข้าสู่ผิว
พักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด
เพราะการนอนหลับมีผลต่อการซ่อมแซมเซลล์ผิวโดยตรง
เลือกหัตถการที่เน้นการฟื้นฟูเกราะผิว
ที่ลอตเต้คลินิก เรามีหัตถการที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวอ่อนแอหรือผิวขาดสมดุล เช่น:
โปรแกรม Treatment (ทรีทเม้นต์ฟื้นฟูเกราะผิว)
ทรีทเม้นต์ที่ใช้เทคนิคการผลักสารบำรุงเข้าสู่ผิว เช่น เซราไมด์, กรดไขมัน และกรดไฮยาลูโรนิก เพื่อเสริมโครงสร้างผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และฟื้นคืนความสมดุลให้ผิวอย่างอ่อนโยน
โปรแกรม Made Collagen
การฉีดสารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในชั้นผิวอย่างลึกซึ้ง เหมาะกับผู้ที่ผิวบาง อ่อนแอ หรือมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายใน ลดการสูญเสียน้ำและเสริมโครงสร้างผิวให้แน่นขึ้น
โปรแกรม Skin Booster
การฉีดสารเติมน้ำที่คัดสรรสำหรับผิวบอบบาง เช่น ไฮยาลูโรนิกชนิดอนุภาคเล็กผสมกับสารปลอบประโลมผิว (เช่น B5, Zinc, หรือ Amino Acids) ช่วยลดการอักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่น และปรับสภาพผิวให้กลับมาสุขภาพดี
Skin Barrier เปรียบเสมือนด่านป้องกันสำคัญของผิวที่ทำหน้าที่รักษาสุขภาพผิวในระยะยาว เมื่อเกราะผิวนี้เสียสมดุล ย่อมทำให้ผิวอ่อนแอ ไวต่อการระคายเคือง และฟื้นตัวได้ช้าลง การดูแลผิวในภาวะนี้จึงต้องอาศัยความเข้าใจและการเลือกแนวทางที่อ่อนโยน ปลอดภัย และเหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละบุคคล
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาผิวไว แพ้ง่าย หรือผิวดูแห้งไม่สดใส ทีมแพทย์ที่ลอตเต้คลินิกพร้อมให้คำปรึกษา วิเคราะห์ผิวอย่างลึกซึ้ง และแนะนำแนวทางฟื้นฟูเกราะผิวให้กลับมาแข็งแรงอย่างอ่อนโยนและปลอดภัยค่ะ
Facebook : https://www.facebook.com/lotteclinic8/
Inbox : m.me/lotteclinic8
Line Official : https://lin.ee/aA680qy
Youtube : youtube.com/c/lotteclinic
Instagram : instagram.com/lotteclinic/
Tiktok : tiktok.com/@lotteclinic
Hotline : 088-555-3421