219 จำนวนผู้เข้าชม |
โปรแกรม Redies Plus ที่สุดของการยกกระชับ
กรอบหน้าชัดมีมิติ ผลลัพธ์ยาวนาน
พออายุมากขึ้น โครงสร้างผิวก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไป เช่น ผิวเสื่อมสภาพ ชั้นไขมันและกระดูกยุบตัว ผิวขาดการสร้างคอลลาเจน ซึ่งส่งผลให้โครงหน้าดูหย่อนคล้อย ผิวหย่อนยานเพราะไม่มีตัวช่วยพยุงชั้นใต้ผิว วันนี้แอดเลยจะพามาทำความรู้จักกับโปรแกรม Radies Plus ที่เป็นนวัตกรรมในการช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างดีมาก ๆ เพราะมีส่วนประกอบหลักคือ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) และมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ที่ช่วยลดความเจ็บปวดในการฉีด
โปรแกรม Radies Plus คืออะไร ?
โปรแกรม Radies Plus คือสารเติมเต็มที่ทำหน้าที่กระตุ้นคอลลาเจน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Biostimulator ซึ่งประกอบด้วยแคลเซียมไฮดรอกซิแอปาไทต์ (CaHA) โดยเป็นสารที่พบได้ในร่างกายของมนุษย์ เลยทำให้ โปรแกรม Radies Plus มีความปลอดภัยสูงและมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดอาการแพ้ภายหลัง
แคลเซียมไฮดรอกซิแอปาไทต์ (CaHA) เป็นส่วนประกอบหลักในโปรแกรม Radiesse Plus ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในกระดูกและฟันของมนุษย์ ทำให้เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายจะไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันที่รุนแรงเหมือนกับสารเติมเต็มบางชนิดที่ไม่ได้มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย
โปรแกรม Radies Plus มีคุณสมบัติพิเศษที่นอกจากจะช่วยยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยและปรับใบหน้าให้ได้รูปแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวดูเรียบเนียน ตึงกระชับ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนนี้ทำให้ผลลัพธ์ของการทำโปรแกรม Radies Plus อยู่ได้นานกว่าสารเติมเต็มชนิดอื่นที่ไม่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้
โปรแกรม Radies Plus มีหลักการทำงานอย่างไร ?
โปรแกรม Radies Plus แตกต่างจากฟิลเลอร์ธรรมดา เพราะไม่ใช่กรดไฮยาลูโรนิก (HA) แต่เป็นไมโครสเฟียร์เจลแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) ที่มีการรับรองแล้วว่าสามารถใช้ฉีดเพื่อปรับแนวกรามและกรอบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังการทำหัตถการ ผิวจะค่อย ๆ เริ่มสร้างคอลลาเจนเพื่อทำหน้าที่เติมเต็มรอบหน้าได้ทันที และยังให้ผลลัพธ์ในระยะยาวจากการสร้างคอลลาเจน
CaHA เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ทำให้ Radies Plus มีความปลอดภัยสูงและมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดการแพ้ สารนี้มาในรูปแบบไมโครสเฟียร์เจล ซึ่งช่วยให้การฉีดมีความคงตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น เมื่อฉีดเข้าสู่ผิว สาร CaHA จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับผิวในทันที จากนั้นจะค่อย ๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและตึงกระชับในระยะยาว
โปรแกรม Radies Plus ต่างกับ โปรแกรมฟิลเลอร์ธรรมดายังไง ?
ผลลัพธ์ยาวนานกว่า : เนื่องจาก โปรแกรม Radies Plus ไม่เพียงแค่เติมเต็มพื้นที่ที่ขาดหายไป แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ใช้ HA
ประสิทธิภาพในการปรับรูปทรงใบหน้า : โปรแกรม Radies Plus สามารถใช้เพื่อปรับแนวกราม กรอบหน้า และเพิ่มความคมชัดของกรอบหน้าไปจนถึงบริเวณขากรรไกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงนี้ช่วยให้ใบหน้าดูสมบูรณ์แบบและมีความสมดุลมากขึ้น
ปริมาณที่มากกว่า : โปรแกรม Radies Plus มีปริมาณ 1.5 cc ซึ่งต่างจากฟิลเลอร์ปกติที่จะมีเพียง 1 cc เท่านั้น ปริมาณที่มากกว่านี้ช่วยให้สามารถใช้ฉีดบริเวณกว้างได้ในการฉีดเพียงครั้งเดียว ลดความจำเป็นในการฉีดซ้ำและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน : การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนนี้ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ตึงกระชับ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่า CaHA จะถูกสลายไปตามธรรมชาติในร่างกาย แต่ผลลัพธ์ที่เกิดจากการกระตุ้นคอลลาเจนจะคงอยู่ต่อไปอีกนาน
โปรแกรม Radies Plus กับเทคนิคการสร้าง Contour บนใบหน้า คืออะไร ?
การทำโปรแกรม Radies Plus ในบริเวณกรามและโหนกแก้มจะช่วยเน้นเรื่องโครงหน้าให้ชัดขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวบริเวณที่ต้องการให้มีแสงเงาบนใบหน้า โดยการปรับแสงและเงาให้ถูกต้อง ก็สามารถทำให้ผิวหน้าดูสมบูรณ์และดูมีมิติมากขึ้น
การเน้นโครงหน้า : โปรแกรม Radies Plus สามารถใช้ในการเติมเต็มและปรับรูปร่างของกรามและโหนกแก้ม ทำให้โครงหน้าเด่นชัดและมีความสมดุลมากขึ้น การฉีดในบริเวณกรามจะช่วยเพิ่มความคมชัดและทำให้กรอบหน้าดูชัดเจน การฉีดในบริเวณโหนกแก้มจะช่วยยกกระชับและเพิ่มความสูงของโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น
การเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว : โปรแกรม Radies Plus ไม่เพียงแค่เติมเต็มพื้นที่ที่ขาดหายไป แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น การสร้างคอลลาเจนนี้ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นและมีความเป็นธรรมชาติ
การปรับแสงและเงา : การทำโปรแกรม Radies Plus ในบริเวณที่เหมาะสมสามารถช่วยปรับแสงและเงาบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มแสงในบริเวณที่ควรเพิ่ม เช่น โหนกแก้ม และกลางหน้าผาก จะช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและโดดเด่นขึ้น ส่วนการเพิ่มเงาในบริเวณที่ควรเพิ่ม เช่น กราม และข้างจมูก จะช่วยสร้างความลึกและมิติให้กับใบหน้า การปรับแสงและเงาให้ถูกต้องทำให้ใบหน้าดูสมบูรณ์และมีมิติมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเมคอัพมากนัก
การทำโปรแกรม Radies Plus เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ที่มีความต้องการดังนี้
ผู้ที่ปัญหาใบหน้าสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน : โปรแกรม Radies Plus ช่วยเสริมคอลลาเจนในผิวหน้าที่สูญเสียไปจากการเปลี่ยนแปลงของอายุ และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว
ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ใบหน้าหย่อนคล้อย : การทำโปรแกรม Radies Plus ในบริเวณกรามและโหนกแก้มช่วยเพิ่มความคมชัดของโครงหน้า และยกกระชับใบหน้าที่มีการหย่อนคล้อย
ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยและร่องลึก : สาร CaHA ใน Radies Plus สามารถเติมเต็มบริเวณริ้วรอยและร่องลึกได้ ช่วยลดลึกและทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น
ผู้ที่มีปัญหาภาวะกระดูกใบหน้าทรุดตัว : การใช้ Radies Plus ในบริเวณกรามและโหนกแก้มช่วยเสริมและเรียบเนียนภาพรวมของใบหน้าที่มีภาวะกระดูกใบหน้าทรุดตัว
ผู้ที่อยากเพิ่มมิติบนใบหน้า แต่ไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม : โปรแกรม Radies Plus เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มมิติในใบหน้าด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยเฉพาะในการปรับแก้ไขกรามและโหนกแก้ม
หลังทำโปรแกรม Radies Plus ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ?
หลังทำโปรแกรม Radies Plus จะรู้สึกได้ว่าบริเวณที่ฉีดดูยกกระชับและมีมิติมากขึ้นทันทีหลังจากทำเลยครับ และหลังทำไป 3 - 4 สัปดาห์ จะรู้สึกว่าผิวดูกระชับมากขึ้นเพราะในโปรแกรม Radies Plus มี CaHA ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มมากขึ้น และผลลัพธ์ที่ได้จะคงอยู่ได้นานถึง 2 ปีเลย
โปรแกรม Radies Plus ต่างจาก โปรแกรม Radies รุ่น Classic ตรงไหนกันนะ ?
ส่วนประกอบ
Radies Plus : ส่วนประกอบหลักคือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ไมโครสเฟียร์ (Calcium Hydroxylapatite Microspheres) หรือ CaHA microsphere ผสมกับเจล Sodium carboxy-methylcellulose (CMC) นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มยาชาเข้ามาด้วย เพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบายในระหว่างและหลังการรักษา
Radies รุ่น Classic : ส่วนประกอบหลัก คือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ไมโครสเฟียร์ (Calcium Hydroxylapatite Microspheres) ผสมกับเจล Sodium carboxy-methylcellulose (CMC) โดยไม่มีการเพิ่มยาชา (Lidocaine) เข้ามา
ตำแหน่งที่การฉีด
Radies Plus : เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณโหนกแก้ม กราม ขากรรไกร และคาง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมิติและความคมชัดให้กับใบหน้า
Radies รุ่น Classic : เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณผิวที่มีริ้วรอย ร่องลึก หลุม และความเหี่ยวย่น เพื่อปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ยกกระชับใบหน้า และลดริ้วรอย
ผลลัพธ์ที่ได้
Radies Plus : เน้นเรื่องของการเพิ่มมิติและความคมชัดให้กรอบหน้าและโหนกแก้ม และช่วยในเรื่องการยกกระชับได้ดี เลยทำให้หน้าดูมีมิติ เด่นชัดขึ้น ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป
Radies รุ่น Classic : ช่วยในเรื่องของการปรับปรุงผิวให้ดีขึ้น ยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอยร่องลึกบนผิวหน้า นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น
สรุปง่าย ๆ ระหว่าง โปรแกรม Radies Plus กับ โปรแกรม Radies รุ่น Classic มีความแตกต่างกันเกือบจะทุกด้าน ไม่ว่าจะเรื่องของส่วนประกอบ บริเวณที่ฉีด หรือผลลัพธ์ ซึ่งในตัว Radies Plus จะมีการเพิ่มยาชา (Lidocaine) เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการทำ เหมาะกับการฉีดในบริเวณที่ต้องการเพิ่มมิติและความคมชัดให้กับใบหน้า ขณะที่ Radies รุ่น Classic เหมาะกับการฉีดเพื่อต้องการปรับปรุงผิวและลดริ้วรอย
หลังทำโปรแกรม Radies Plus ต้องดูแลตัวเองอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ?
หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกัน Radies Plus ไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
ดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและสนับสนุนการฟื้นฟูของผิว
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีความร้อนสูง เช่น ซาวน่า อ่างน้ำร้อน
สำหรับใครที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยและต้องการให้กรอบหน้าคมชัด มีผลลัพธ์ที่ยาวนาน การทำโปรแกรม Radies Plus เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยเติมเต็มให้หน้ามีมิติมากขึ้น ต้องรีบทักหาแอดมินแล้วครับ ตอนนี้มีโปรโมชั่นดี ๆ รออยู่เพียบ~
Facebook : https://www.facebook.com/lotteclinic8/
Inbox : m.me/lotteclinic8
Line Official : https://lin.ee/aA680qy
Youtube : youtube.com/c/lotteclinic
Instagram : instagram.com/lotteclinic/
Tiktok : tiktok.com/@lotteclinic
Hotline : 088-555-3421